คู่มือการบริหารจัดการเอกสารทางการเงินระหว่างศูนย์อาหารและร้านค้า

การดำเนินงานของศูนย์อาหารที่ราบรื่นและโปร่งใส มาจากการบริหารจัดการเอกสารทางการเงินที่มีคุณภาพ บทความนี้จะช่วยให้ศูนย์อาหารและร้านค้าเข้าใจถึงประเภทของเอกสารที่สำคัญ กระบวนการที่เกี่ยวข้อง และข้อควรใส่ใจด้านภาษี เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

ความสำคัญของการจัดการเอกสารทางการเงิน
ในธุรกิจศูนย์อาหารที่มีการแลกเปลี่ยนเงินและเอกสารจำนวนมาก การจัดการเอกสารทางการเงินที่ถูกต้องจึงเป็นหัวใจสำคัญ ไม่ใช่แค่การบันทึกบัญชี แต่ยังรวมถึง:
  • การทำตามกฎหมายและภาษี: เอกสารคือหลักฐานสำคัญในการยื่นภาษี ทั้งภาษีเงินได้, VAT และภาษีหัก ณ ที่จ่าย การทำเอกสารไม่ถูกต้องอาจนำไปสู่บทลงโทษได้
  • การตรวจสอบภายใน: เอกสารที่ชัดเจนช่วยให้ตรวจสอบและเปรียบเทียบข้อมูลบัญชีได้ง่าย ป้องกันความผิดพลาดหรือการฉ้อโกง
  • ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ: ข้อมูลที่แม่นยำจากเอกสารที่ครบถ้วน เป็นพื้นฐานในการวิเคราะห์รายรับ-รายจ่าย ประเมินกำไร-ขาดทุน เพื่อวางแผนธุรกิจ
  • สร้างความน่าเชื่อถือ: การออกเอกสารอย่างมืออาชีพช่วยสร้างความน่าเชื่อถือกับลูกค้าและคู่ค้า

เอกสารทางการเงินหลักที่ใช้ในการดำเนินงาน


ใบเสร็จรับเงิน / ใบกำกับภาษี

  • วัตถุประสงค์: ใบเสร็จรับเงิน เป็นหลักฐานว่าได้รับการชำระเงินแล้ว ส่วน ใบกำกับภาษี ใช้สำหรับธุรกิจที่จดทะเบียน VAT เพื่อแสดงมูลค่าสินค้า/บริการและ VAT ที่เรียกเก็บ
  • ใครออก:
    • ร้านค้า ออกให้ลูกค้าเมื่อมีการซื้อขาย
    • ศูนย์อาหาร ออกให้ร้านค้าเมื่อร้านค้าชำระค่าเช่า, ค่าน้ำ, ค่าไฟ หรือบริการอื่น ๆ


ใบแจ้งหนี้ / ใบวางบิล

  • วัตถุประสงค์:
    • ใบแจ้งหนี้ (Invoice): ออกหลังจากให้บริการเสร็จสิ้น ระบุรายละเอียดและเงื่อนไขการชำระเงิน
    • ใบวางบิล (Billing Note): ออกเมื่อถึงกำหนดเวลาเรียกเก็บเงิน สรุปยอดที่ต้องชำระในงวดนั้น
  • ใครออก: ศูนย์อาหาร ออกให้ร้านค้าสำหรับค่าเช่าพื้นที่, ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าบริการส่วนกลาง หรือค่าใช้จ่ายรายเดือน/รายงวดอื่น ๆ


ใบสำคัญรับ / ใบสำคัญจ่าย

  • วัตถุประสงค์:
    • ใบสำคัญรับ (Receipt Voucher): เอกสารภายในที่บริษัทจัดทำเพื่อบันทึกรายการรับเงิน กรณีที่ไม่สามารถออกใบเสร็จรับเงินอย่างเป็นทางการได้
    • ใบสำคัญจ่าย (Payment Voucher): เอกสารภายในที่บริษัทจัดทำเพื่อบันทึกรายการจ่ายเงินค่าสินค้าหรือบริการ กรณีที่ไม่มีใบเสร็จรับเงินจากผู้ขาย หรือใช้เป็นเอกสารประกอบการจ่ายเงินอื่น ๆ
  • ใครจัดทำ: ฝ่ายบัญชี หรือผู้มีอำนาจของ ศูนย์อาหาร หรือ ร้านค้า ที่ทำการรับหรือจ่ายเงิน


การจัดการเอกสารตามประเภทรายได้และค่าใช้จ่าย

รายได้ของศูนย์อาหารและส่วนแบ่งรายได้

  • การบันทึกยอดขาย: ร้านค้าส่วนใหญ่ใช้ระบบ POS เพื่อบันทึกยอดขาย ระบบ POS สามารถเชื่อมต่อกับโปรแกรมบัญชีเพื่อสรุปยอดขายประจำวัน/เดือน
  • การคำนวณส่วนแบ่ง: ศูนย์อาหารอาจเก็บค่าเช่าเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดขายรวมของร้านค้า หักด้วยค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภค
  • เอกสารที่เกี่ยวข้อง: รายงานสรุปยอดขาย (จากระบบ POS/ร้านค้า), ใบวางบิล/ใบแจ้งหนี้ (ศูนย์อาหาร), ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี (ศูนย์อาหาร)


ค่าบริการพื้นที่สำหรับร้านค้า (ค่าเช่า)

  • สัญญาเช่า: ต้องมี สัญญาเช่า เป็นลายลักษณ์อักษร และต้องปิด อากรแสตมป์
  • ใบแจ้งหนี้ค่าเช่า: ศูนย์อาหาร ออกให้ร้านค้าตามรอบที่ตกลงกัน
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax): หากร้านค้าเป็นนิติบุคคล มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย 5% ของค่าเช่า และออก หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ให้ศูนย์อาหาร
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT): การให้เช่าอสังหาริมทรัพย์โดยทั่วไปได้รับการยกเว้น VAT แต่หากมีค่าบริการอื่น ๆ เช่น ค่าส่วนกลาง และผู้ให้เช่ามีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี อาจต้องคิด VAT 7%


ค่าน้ำ ค่าไฟ

  • การเรียกเก็บ: ศูนย์อาหารมักเป็นผู้รับผิดชอบค่าสาธารณูปโภคหลัก และจะเรียกเก็บจากร้านค้าตามสัดส่วนการใช้งาน หรือตามที่ตกลงในสัญญา
  • เอกสาร: ศูนย์อาหาร ออก ใบแจ้งหนี้สำหรับค่าน้ำและค่าไฟ ให้ร้านค้า
  • ภาษีซื้อ (Input VAT): หากบิลต้นฉบับไม่ได้อยู่ในชื่อร้านค้า ควรให้ศูนย์อาหารออกใบแจ้งหนี้และใบเสร็จรับเงินที่ชัดเจน หรือประสานงานกับหน่วยงานเพื่อเพิ่มชื่อร้านค้าในใบกำกับภาษี


ค่าหักอื่น ๆ

  • ประเภท: เช่น ค่าบริการส่วนกลาง, ค่าการตลาด/โปรโมชั่น, ค่าธรรมเนียมระบบ, ค่าคอมมิชชั่น
  • เอกสาร: ควรระบุอย่างชัดเจนในสัญญาเช่า หรือข้อตกลง และ ศูนย์อาหาร ควรออก ใบแจ้งหนี้ ที่ระบุรายละเอียดของค่าหักเหล่านี้อย่างชัดเจนและแยกรายการ


อัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายทั่วไป (สำหรับอ้างอิง)


กระแสเอกสารระหว่างศูนย์อาหารและร้านค้า

ข้อควรใส่ใจด้านภาษีและบัญชี

  • การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT): หากรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องจดทะเบียน VAT 7% และยื่นแบบ ภ.พ.30 รายเดือน
    • ภาษีเงินได้:บุคคลธรรมดา: ยื่น ภ.ง.ด.94 (ครึ่งปี) และ ภ.ง.ด.90/91 (สิ้นปี)
    • นิติบุคคล: ยื่น ภ.ง.ด.51 (ครึ่งปี) และ ภ.ง.ด.50 (สิ้นปี)
    • ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้
  • การกระทบยอดบัญชี: ควรทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทางการเงิน ป้องกันข้อผิดพลาดและการฉ้อโกง
    ระบบ POS และโปรแกรมบัญชี: การลงทุนในระบบเหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการบันทึกและจัดการเอกสาร รวมถึงการออกเอกสารอิเล็กทรอนิกส์

 

ข้อแนะนำเพื่อการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ
เพื่อการบริหารจัดการเอกสารทางการเงินที่แข็งแกร่ง ทั้งศูนย์อาหารและร้านค้าควร:

  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากไม่แน่ใจในกฎหมายหรือการจัดการเอกสาร ควรขอคำแนะนำจากนักบัญชีหรือที่ปรึกษาภาษี
  • ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม: พิจารณาระบบ POS ที่เชื่อมต่อกับโปรแกรมบัญชีเพื่อลดภาระงานและเพิ่มความแม่นยำ
  • กำหนดรอบการจ่ายเงินและเก็บเอกสาร: สร้างวินัยในการเก็บเอกสารทุกรายการอย่างครบถ้วนเพื่อการตรวจสอบและวิเคราะห์
  • ทำความเข้าใจสัญญา: อ่านและทำความเข้าใจรายละเอียดในสัญญาเช่าและข้อตกลงอื่น ๆ อย่างละเอียด เพื่อป้องกันข้อพิพาท
  • กระทบยอดบัญชีสม่ำเสมอ: ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทางการเงินเป็นประจำ เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือ
  • การให้ความใส่ใจกับการบริหารจัดการเอกสารทางการเงินอย่างเป็นระบบนี้ จะช่วยให้ธุรกิจศูนย์อาหารและร้านค้าเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้